ปัญหาการศึกษา : O-NET
(Education Problem)
*สุเทพ ปาลสาร
......................................................................................................................................................................................
ครั้งนี้ฉุกคิดไม่ได้ ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้ติดตามข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ หรือแม้แต่อินเตอร์เน็ต ลงข่าวกันทุกวัน ภาพของการศึกษาทุกวันนี้ “ เกิดอะไรขึ้น ” จึงอยากจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฐานะครูชนบท ...ข้อความที่ยกมานี้ส่วนมากแล้วเป็นข้อความของนักวิชาการ เสียส่วนมาก...และภาพของนักวิชาการเหล่านี้ เป็นภาพของคนเมือง ไม่ได้ลงลึก ไม่เข้าใจบริบทที่แท้จริง จึงอาจจะวิพากษ์วิจารณ์ ไปต่างๆ นานา ..อาจจะมีส่วนถูกบ้าง และอาจจะคลาดเคลื่อนบ้าง...หรืออาจจะถูกทั้งหมด..ก็สุดแล้วแต่ผู้อ่านจะพิจารณา ครูชนบทอย่างเราเท่านั้นจะรู้และเป็นผู้ตัดสิน จริง ๆ แล้ว คืออะไร จึงอยากสะท้อนแนวคิดเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้....บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนอกจาก...การศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เท่านั้น
ปัญหาการศึกษาพูดมานานเป็นสิบปี โดยเฉพาะผลการสอบระดับชาติ และจะพูดต่อไปอีกยาวนานนับสิบสิบปี ดังคำกล่าวที่ยกมา คือ “ปฏิรูปการศึกษา” ใครว่าปฏิรูปการศึกษาจะมีรอบสองและรอบสาม...... การประเมินจากภายนอกใครคิดว่าจะมีรอบหนึ่ง รอบสองและรอบสาม....การสอบ O-NET กี่ครั้ง..ก็กี่ครั้ง จะกี่ครั้งหรือกี่รอบแล้วเกิดอะไรขึ้น ภาพสะท้อนที่ชัดเจนนอกจาก “คุณภาพที่ตกต่ำ อย่างต่อเนื่อง 3 ปี ” จนนักวิชาการบางคนเสนอให้ยุบ สมศ. (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา) และ สทศ. (สำนักทดสอบแห่งชาติ) ดังเช่น สมพงษ์ จิตระดับ (2554) ที่กล่าวว่า “ เกินกว่าคำว่า “น่าตกใจ” เด็กไทยสอบตกทั้งประเทศ..คะแนนต้อยต่ำสุดๆ...สาเหตุมาจากอะไรบ้าง ออกข้อสอบยากมาก เหมือนกับข้อสอบแข่งขันโอลิมปิค...ครูทำวิทยฐานะไม่สนใจเด็ก และเด็กไม่ตั้งใจสอบเพราะไม่มีผลทำให้สอบตก...และสุดท้าย ดีที่สุดของการแก้ปัญหา สมพงษ์ จิตระดับ กล่าวว่า “ ให้ยุบ สทศ.และสมศ. ไปเถอะ..รำคาญ” ส่วน ชินวรณ์ บุญเกียรติ (2554) มองว่า ปัญหาคุณภาพ การสอบ O-NET ลดลงเรื่อย ๆ ตลอดช่วงเวลา 3 ปี คือ “ ครูยังสอนแบบเดิมๆ ไม่ปรับวิธีสอน การสอนยังเน้นท่องจำ ไม่ได้เน้นการคิดวิเคราะห์ ” นอกจากนั้น สมเกียรติ ชอบผล (2554) กล่าวว่า ปัญหาที่เด็กทำข้อสอบไม่ได้ เพราะว่า วิธีการสอนในโรงเรียนอาจจะไม่สอดคล้องกับ กับข้อสอบโอเน็ต” ชินภัทร ภูมิรัตน กล่าวว่า “โอเน็ตปีหน้าถ้าตกต่ำอีก จะต้องมีผู้รับผิดชอบทุกระดับ ตั้งแต่ ศธ-สพป-สพม-ผอ.รร.และครูผู้สอน” และยังกล่าวว่า “ปัญหาการสอบตกต่ำ เพราะว่า เด็กไม่คุ้นเคยรูปแบบของข้อสอบที่ต้องเป็นแบบสัมพันธ์กัน “ ข้อสอบบางข้อมีความลำเอียงเชิงวัฒนธรรม ” บางคำถามเป็นคำถามสำหรับเด็กฐานะเศรษฐกิจดีหรือเด็กในเมืองตอบได้ แต่เด็กชนบทหรือต่างจังหวัดไม่รู้และตอบไม่ได้ นอกจากนั้น ชินภัทร ภูมิรัตน กล่าวว่า “ ปีหน้า จะนำผลการสอบโอเน็ต มาใช้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อ ม. 1 และ ม.4 ด้วย ” ศ.นพ.ประเวศ วะสี (2554) ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงการปฏิรูปการศึกษารอบสองว่า เรื่องสำคัญที่สุดคือการปฏิรูปการผลิตครูใหม่ เพื่อให้ได้ครูที่มีคุณภาพ การสอนจึงจะมีคุณภาพ สัมพันธ์ พันธ์พฤกษ์ (2554) กล่าวว่า “สทศ.ไม่ปลื้ม! คะแนน O-NET ม.6 "คณิต-อังกฤษ" ตกรูด” นานาปัญหาทัศนะ แต่ความเป็นจริงแล้ว ปัญหาที่แท้จริง ที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่เป็นไปได้แทบทั้งสิ้น มุมมองของผู้เขียนที่เพิ่มเติม มองว่า ปัญหาคุณภาพ เกิดจาก การขาดการเสริมแรงภายใน ขาดการสร้างความตระหนักและที่สำคัญสาเหตุที่แท้จริง คือ “ นโยบายที่ไม่ชัดเจนของฝ่ายบริหาร ไม่ผสานเข้าใจปัญหา นำพาระบบอุปถัมภ์ การสร้างความเป็นธรรมมีน้อย ปล่อยปะละเลยคุณภาพ เน้นผลประโยชน์ โทษลูกน้อง ปกป้องคนไม่ดี ไม่มีระบบการจัดการ จัดงบประมาณตามใจตนเอง ”
โดยสรุป ปัญหาคุณภาพการศึกษา คงไม่สามารถกล่าวโทษใครคนใดคนหนึ่งได้ คุณภาพเด็กหนึ่งคนหรือเด็กหนึ่งร้อยคน เริ่มจาก ครอบครัว โรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่ สพฐ.และ กระทรวงศึกษาธิการ และที่สำคัญ เพียงการสอบเท่านั้นคงไม่สามารถตัดสินคุณภาพได้อย่างเพียงพอ การสอบที่มีลักษณะ “คนสอบไม่ได้สอน คนสอนไม่ได้สอบ” บางครั้งอาจจะตัดสินคุณภาพยังไม่ได้ คุณภาพ อยากให้มองครบทุกมิติ คุณภาพผู้เรียนของเรา คือ ดี เก่ง และมีความสุข ต่างหากหละ เด็กส่วนมากดีแล้วเป็นผู้มีคุณธรรม ตามมาตรฐานที่ 1 สมศ.(2553) เขามีความสุขแล้ว มาตรฐานที่ 3 แต่เขาอาจจะยังไม่เก่ง ตามมาตรฐานที่ 5 ดังนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างหากหละคงต้องร่วมมือกัน และให้กำลังใจกัน ยกระดับร่วมกัน ดังที่ว่า “ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมประเมิน และร่วมกันรับผิดชอบ” ไงหละครับ
แหล่งอ้างอิง
ชินวรณ์ บุญเกียรติ. (2554). "ชินวรณ์"ยอมรับคะแนนโอเน็ตต่ำ เหตุครูไม่ปรับวิธีสอน ยังเน้นท่องจำ.
ค้นเมื่อ 13 เมษายน 2554 จาก http://www.kroobannok.com/42685
ชินภัทร ภูริทัต. (2554). สพฐ.คาดโทษ"โอเน็ต"ตกต่ำอีกต้องมีคนรับผิดชอบ. ค้นเมื่อ 13 เมษายน 2554
จาก http://www.kroobannok.com/42817
ประเวศ วะสี (2554). การปฏิรูปรอบสอง . ค้นเมื่อ 13 เมษายน 2554
จาก http://www.kroobannok.com/42878
สมเกียรติ ชอบผล. (2554). "สพฐ."แจงเหตุคะแนนโอเน็ตต่ำ เพราะการสอนไม่สอดคล้องข้อสอบ.
ค้นเมื่อ 13 เมษายน 2554 จาก http://www.kroobannok.com/42686
สมพงษ์ จิตระดับ. (2554). "ยุบ สทศ. สมศ..." สมพงษ์ จิตระดับ ชำแหละนักเรียนสอบตกโอเน็ต "ยกสยาม"
ค้นเมื่อ 13 เมษายน 2554 จาก http://www.kroobannok.com/42754
สัมพันธ์ พันธ์พฤกษ์. (2554) . สทศ.ไม่ปลื้ม! คะแนน O-NET ม.6 "คณิต-อังกฤษ" ตกรูด. ค้นเมื่อ 13 เมษายน 2554
จาก http://www.kroobannok.com/42674
สมศ.(2553). รายงานประจำปี 2552. ค้นเมื่อ 13 เมษายน 2554
จาก http://www.onesqa.or.th/onesqa/th/printing/index.php
บทความที่ได้รับความนิยม
-
รองสุเทพ ปาลสาร ท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับภาวะผู้นำทางจริยธรรม จึงอยากฝากให้อ่าน เพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร...
-
หลักการทำงานเป็นทีม ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด หากคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ แม้ทำไม่ได้ ขอให้ความร่วมมือ หากความร่วมม...
-
ปัญหาการศึกษา : O-NET (Education Problem) *สุเทพ ปาลสาร .................................................................................
วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การทำงานเป็นทีม
หลักการทำงานเป็นทีม
ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด
หากคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ
แม้ทำไม่ได้ ขอให้ความร่วมมือ
หากความร่วมมือยังให้ไม่ได้ ขอให้กำลังใจ
หากแม้กำลังยังให้ไม่ได้ ขอจงสงบนิ่ง
ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด
หากคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ
แม้ทำไม่ได้ ขอให้ความร่วมมือ
หากความร่วมมือยังให้ไม่ได้ ขอให้กำลังใจ
หากแม้กำลังยังให้ไม่ได้ ขอจงสงบนิ่ง
วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554
บทความภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม
รองสุเทพ ปาลสาร |
ท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับภาวะผู้นำทางจริยธรรม จึงอยากฝากให้อ่าน เพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ตาม ลิงค์ ด้านล่างนี้นะครับ
รอง สุเทพ ปาลสาร
http://202.143.147.131/mediacenter/multimedia/2011-04-22-23-52-26ลำดับที่_16%20%20ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม%20.pdf
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)